วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ครูใต้...ระบุ...จนท.รัฐปัดความรับผิดชอบ จนครูถูกลอบทำร้าย

           ครูใต้..ระบุ..เคยขอกำลังทหารเข้าไปดูแลความปลอดภัย แต่ได้รับคำตอบว่า....กำลังมีไม่เพียงพอ....จนทำให้ครูถูกลอบทำร้ายด้วย   กลุ่มคนร้ายที่แต่งกายคลายทหาร


             ........เมื่อวันที่ 17 พย.54 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลจากโรงพยาบาลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส  ได้นำตัวนายสิทธิชัย  วรรณจิตรจรูญ  อายุ 56 ปี ผอ.ร.ร.บ้านละหาร   นางวิมลรัตน์ พรหมทองรักษ์  นางมยุรี กสิวุธ และนางสหวรรณ  วรรณจิตรจรูญ  ครูโรงเรียนบ้านละหาร ส่งมายังโรงพยาบาลยะลา โดยทั้ง 4 รายได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายซุ่มยิง โดยเหตุเกิด ที่บริเวณ หมู่ ที่ 1 ต.รือเสาะออก  อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา   โดยนายสิทธิชัย  วรรณจิตรจรูญ  อายุ 56 ปี ผอ.ร.ร.บ้านละหาร   ถูกยิงเข้าที่แขนขวา แพทย์ต้องทำการผ่าตัดเอากระสุนออก   นางวิมลรัตน์ พรหมทองรักษ์  นางมยุรี กสิวุธ และนางสหวรรณ  วรรณจิตรจรูญ  ถูกกระสุนเข้าที่แขน  ลำตัว  ซึ่งล่าสุดแพทย์ต้องนำตัวทั้งหมดเข้าห้องผ่าตัด


จากการสอบถามนางถวิล จันทร์ดวล ครู ร.ร.บ้านละหาร ซึ่งนั่งมาในรถ ขณะถูกซุ่มยิง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า  ขณะที่ ผอ.โรงเรียน และครู รวมทั้งตน นั่งอยู่ในรถยนต์เก๋งคันแรก มี ผอ.เป็นคนขับ รวม 4 คน และอีกคันหนึ่ง เป็นรถยนต์กระบะ มีนางสหวรรณ  วรรณจิตรจรูญ  บุตรสาวของ ผอ.เป็นคนขับ โดยมีครูนั่งอยู่รวม 10 คน  เพื่อจะเดินทางกลับหลังเลิกเรียน   เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นคนร้าย ประมาณ 4-5 คน ดักซุ่มอยู่ข้างทาง  โดยทั้งหมดแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร   และกลุ่มคนร้ายดังกล่าว ก็กราดยิงเข้าใส่รถ ทั้ง 2 คัน ทันที จนทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ


นางถวิล  ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ปกติแล้วครูที่โรงเรียนบ้านละหาร มีจำนวน 14 คน ก็จะเดินทางกลับบ้านพร้อมกัน ออกจากโรงเรียนช่วงเวลา 15.20 น.เป็นประจำ  โดยไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยให้ตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมมาแล้ว  เมื่อก่อนนี้ยังมีทหารพรานช่วยดูแลความปลอดภัย แต่เมื่อถอนกำลังทหารออกก็ไม่มีใครมาดูแลความปลอดภัยให้  ที่ผ่านมาทาง ผอ.ร.ร. ได้เข้าประขุมและร้องขอกำลังให้ช่วยดูแล รปภ.แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการเหลียวแล จนกระทั่งมาเกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงดังกล่าว

   หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  ค่ายสิรินธร  ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พลตรีสุภัช  วิชิตการ  รองแม่ทัพภาค 4  ซึ่งดูแลงานด้านความมั่นคง  ได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนจากสมาพันธ์ครู 3 จังหวัด  เข้าประชุมร่วมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ เพื่อหารือพูดคุยถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่  และรับฟังปัญหาในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งร่วมกันหารือในการปรับเปลี่ยนมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับคณะครูในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส  ภายหลังเกิดเหตุในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 17 พย.ที่ผ่านมา
            นายอรรถสิทธิ์  รัตนแคล้ว  ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 1 เปิดเผยว่า กรณีเหตุการณ์ที่ อ.รือเสาะ เมื่อวานนี้จะต้องมีการปรับการ รปภ.อีกมาก เนื่องจากตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายธนน  เวชกรกานนท์  ก็ได้มีการเรียกประชุมกองกำลังในระดับจังหวัด ทั้ง ผบ.ฉก. ตำรวจ ทหาร  โดยให้ลงไปปฎิบัติในระดับอำเภอ ซึ่งตนเองได้ไปร่วมประชุมในระดับอำเภอที่ อ.ยี่งอ ก็พบว่าหน่วยกำลังในพื้นที่ และเครือข่ายอำเภอ ตำรวจ  ได้มีการประสานงานเตรียมความพร้อมกันอย่างดี แต่ในที่ประชุมของ อ.รือเสาะ ที่ตนเองก็ได้เดินทางไปร่วมประชุมวางแผนด้วยนั้น ตนเองพบว่าความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ครูยังไม่มี เนื่องจากก่อนหน้าที่จะปิดภาคเรียน ได้มีการถอนกำลังหน่วยพัฒนาออกจากพื้นที่ไป 19  หน่วย  ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจว่ากรณีดังกล่าวทำให้กำลังทหารในพื้นที่มีไม่เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงในการดูแลรักษาความปลอดภัยครู ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น  ซึ่งตนเองได้มองภาพของการทำงาน การประสานงานของหน่วยกำลังในพื้นที่ อ.รือเสาะ นั้น คนมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก ยังมีความหละหลวมพอสมควร ซึ่งตนเองนั้นกำลังจะเข้าไปพูดคุยกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจะทำอย่างไรให้พื้นที่ อ.รือเสาะ มีความเข้มข้นมากกว่านี้  แต่ก็มาเกิดเหตุซะก่อน
              นายอรรถสิทธิ์  รัตนแคล้ว   กล่าวว่า  จุดที่เกิดเหตุเมื่อวานมีคำถามว่า เป็นจุดที่มีการ รปภ.หรือไม่  ก็ปรากฏว่าเป็นจุดที่เกี่ยงกัน ตำรวจก็บอกว่าไม่ใช่ ทหารก็บอกไม่ใช่ ซึ่งความเป็นจริงบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง ยิงคณะการแสดงช้าง ยิงรถคนสูบส้วม  ระเบิดรถทหาร  ก็เป็นบริเวณดังกล่าว ที่มีเหตุการณ์มาโดยตลอด แต่ทำไมไม่มีมาตรการอะไรมาดูแล เจ้าหน้าที่คงจะต้องมีการปรับการทำงานให้มากกว่านี้ โรงเรียนในพื้นที่ อ.รือเสาะ ที่ทางเขต1นราธิวาสดูแลอยู่มีจำนวน 40 แห่ง เจ้าหน้าที่ทราบดีว่าโรงเรียนตั้งอยู่จุดใด  หน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบก็ควรที่จะดำเนินการดูแลรักษาความปลอดภัย หรือจะชี้แจงให้ครูทราบ อยากให้หน่วยกำลังวางแผนว่าจะให้ครูปฎิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้ครูปลอดภัย ทางครูก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ

              ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 1 ยังกล่าวอีกว่า จริงๆแล้วภาพรวมในการดูแลรักษาความปลอดภัยของนราธิวาส ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง มีเพียงพื้นที่ อ.รือเสาะ เท่านั้นที่ควรจะมีการแก้ไขให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาท่านผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละหาร ก็ได้ร้องขอกำลังในการดูแลรักษาความปลอดภัยมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการดูแล ฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีกำลังไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่มีภารกิจมากมาย  มีเพียงชุดรปภ.ที่วางจุดตามเส้นทางเท่านั้น แต่ในช่วงเส้นทางที่จะเข้าไปสู่ตัว อ.รือเสาะ นั้น เป็นช่องว่าง  ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีการถอนกำลัง 19 หน่วยออกนอกพื้นที่ คณะครูก็บอกว่าการดูแลค่อนข้างดี มีความปลอดภัย แต่เมื่อกำลังลดน้อยลง แล้วจะมาบอกว่าไม่มีกำลังเพื่อ รปภ.ครู คงจะไม่ได้ ก็จะต้องหาวิธีการใดวิธีการหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามแนวความคิดในการปิดโรงเรียนนั้น คงจะยังไม่มี/. 

  

ไม่มีความคิดเห็น: