........เมื่อวันที่ 17 พย.54 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลจากโรงพยาบาลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้นำตัวนายสิทธิชัย วรรณจิตรจรูญ อายุ 56 ปี ผอ.ร.ร.บ้านละหาร นางวิมลรัตน์ พรหมทองรักษ์ นางมยุรี กสิวุธ และนางสหวรรณ วรรณจิตรจรูญ ครูโรงเรียนบ้านละหาร ส่งมายังโรงพยาบาลยะลา โดยทั้ง 4 รายได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายซุ่มยิง โดยเหตุเกิด ที่บริเวณ หมู่ ที่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ผ่านมา โดยนายสิทธิชัย วรรณจิตรจรูญ อายุ 56 ปี ผอ.ร.ร.บ้านละหาร ถูกยิงเข้าที่แขนขวา แพทย์ต้องทำการผ่าตัดเอากระสุนออก นางวิมลรัตน์ พรหมทองรักษ์ นางมยุรี กสิวุธ และนางสหวรรณ วรรณจิตรจรูญ ถูกกระสุนเข้าที่แขน ลำตัว ซึ่งล่าสุดแพทย์ต้องนำตัวทั้งหมดเข้าห้องผ่าตัด
จากการสอบถามนางถวิล จันทร์ดวล ครู ร.ร.บ้านละหาร
ซึ่งนั่งมาในรถ ขณะถูกซุ่มยิง
แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะที่ ผอ.โรงเรียน
และครู รวมทั้งตน นั่งอยู่ในรถยนต์เก๋งคันแรก มี ผอ.เป็นคนขับ รวม 4 คน
และอีกคันหนึ่ง เป็นรถยนต์กระบะ มีนางสหวรรณ วรรณจิตรจรูญ บุตรสาวของ ผอ.เป็นคนขับ โดยมีครูนั่งอยู่รวม 10 คน
เพื่อจะเดินทางกลับหลังเลิกเรียน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นคนร้าย
ประมาณ 4-5 คน ดักซุ่มอยู่ข้างทาง โดยทั้งหมดแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร และกลุ่มคนร้ายดังกล่าว
ก็กราดยิงเข้าใส่รถ ทั้ง 2 คัน ทันที จนทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ
นางถวิล ยังเล่าให้ฟังอีกว่า
ปกติแล้วครูที่โรงเรียนบ้านละหาร มีจำนวน 14 คน
ก็จะเดินทางกลับบ้านพร้อมกัน ออกจากโรงเรียนช่วงเวลา 15.20 น.เป็นประจำ
โดยไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยให้ตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมมาแล้ว
เมื่อก่อนนี้ยังมีทหารพรานช่วยดูแลความปลอดภัย แต่เมื่อถอนกำลังทหารออกก็ไม่มีใครมาดูแลความปลอดภัยให้
ที่ผ่านมาทาง ผอ.ร.ร.
ได้เข้าประขุมและร้องขอกำลังให้ช่วยดูแล รปภ.แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการเหลียวแล จนกระทั่งมาเกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิงดังกล่าว
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร
ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พลตรีสุภัช
วิชิตการ รองแม่ทัพภาค 4 ซึ่งดูแลงานด้านความมั่นคง
ได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนจากสมาพันธ์ครู 3 จังหวัด เข้าประชุมร่วมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่
เพื่อหารือพูดคุยถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ และรับฟังปัญหาในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งร่วมกันหารือในการปรับเปลี่ยนมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับคณะครูในพื้นที่
อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
ภายหลังเกิดเหตุในพื้นที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 17 พย.ที่ผ่านมา
นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว
ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต 1 เปิดเผยว่า
กรณีเหตุการณ์ที่ อ.รือเสาะ เมื่อวานนี้จะต้องมีการปรับการ รปภ.อีกมาก เนื่องจากตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
นายธนน เวชกรกานนท์ ก็ได้มีการเรียกประชุมกองกำลังในระดับจังหวัด
ทั้ง ผบ.ฉก. ตำรวจ ทหาร โดยให้ลงไปปฎิบัติในระดับอำเภอ
ซึ่งตนเองได้ไปร่วมประชุมในระดับอำเภอที่ อ.ยี่งอ ก็พบว่าหน่วยกำลังในพื้นที่
และเครือข่ายอำเภอ ตำรวจ ได้มีการประสานงานเตรียมความพร้อมกันอย่างดี แต่ในที่ประชุมของ
อ.รือเสาะ ที่ตนเองก็ได้เดินทางไปร่วมประชุมวางแผนด้วยนั้น ตนเองพบว่าความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ครูยังไม่มี
เนื่องจากก่อนหน้าที่จะปิดภาคเรียน ได้มีการถอนกำลังหน่วยพัฒนาออกจากพื้นที่ไป 19
หน่วย ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจว่ากรณีดังกล่าวทำให้กำลังทหารในพื้นที่มีไม่เพียงพอ
แต่อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงในการดูแลรักษาความปลอดภัยครู
ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น
ซึ่งตนเองได้มองภาพของการทำงาน การประสานงานของหน่วยกำลังในพื้นที่
อ.รือเสาะ นั้น คนมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก ยังมีความหละหลวมพอสมควร
ซึ่งตนเองนั้นกำลังจะเข้าไปพูดคุยกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
ว่าจะทำอย่างไรให้พื้นที่ อ.รือเสาะ มีความเข้มข้นมากกว่านี้ แต่ก็มาเกิดเหตุซะก่อน
นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว กล่าวว่า จุดที่เกิดเหตุเมื่อวานมีคำถามว่า
เป็นจุดที่มีการ รปภ.หรือไม่
ก็ปรากฏว่าเป็นจุดที่เกี่ยงกัน ตำรวจก็บอกว่าไม่ใช่ ทหารก็บอกไม่ใช่ ซึ่งความเป็นจริงบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง
ยิงคณะการแสดงช้าง ยิงรถคนสูบส้วม
ระเบิดรถทหาร ก็เป็นบริเวณดังกล่าว
ที่มีเหตุการณ์มาโดยตลอด แต่ทำไมไม่มีมาตรการอะไรมาดูแล เจ้าหน้าที่คงจะต้องมีการปรับการทำงานให้มากกว่านี้
โรงเรียนในพื้นที่ อ.รือเสาะ ที่ทางเขต1นราธิวาสดูแลอยู่มีจำนวน
40 แห่ง เจ้าหน้าที่ทราบดีว่าโรงเรียนตั้งอยู่จุดใด หน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบก็ควรที่จะดำเนินการดูแลรักษาความปลอดภัย
หรือจะชี้แจงให้ครูทราบ อยากให้หน่วยกำลังวางแผนว่าจะให้ครูปฎิบัติตัวอย่างไร
เพื่อให้ครูปลอดภัย ทางครูก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ
ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาสเขต
1 ยังกล่าวอีกว่า จริงๆแล้วภาพรวมในการดูแลรักษาความปลอดภัยของนราธิวาส
ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง มีเพียงพื้นที่ อ.รือเสาะ
เท่านั้นที่ควรจะมีการแก้ไขให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาท่านผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละหาร
ก็ได้ร้องขอกำลังในการดูแลรักษาความปลอดภัยมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการดูแล
ฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีกำลังไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่มีภารกิจมากมาย มีเพียงชุดรปภ.ที่วางจุดตามเส้นทางเท่านั้น
แต่ในช่วงเส้นทางที่จะเข้าไปสู่ตัว อ.รือเสาะ นั้น เป็นช่องว่าง ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีการถอนกำลัง 19 หน่วยออกนอกพื้นที่ คณะครูก็บอกว่าการดูแลค่อนข้างดี มีความปลอดภัย
แต่เมื่อกำลังลดน้อยลง แล้วจะมาบอกว่าไม่มีกำลังเพื่อ รปภ.ครู คงจะไม่ได้
ก็จะต้องหาวิธีการใดวิธีการหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามแนวความคิดในการปิดโรงเรียนนั้น
คงจะยังไม่มี/.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น